สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผม winnie กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะวิทยาศาสตร์ เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม จึงมีเวลาว่างพอสมควร ผมเลยถือโอกาสเข้าร่วมทำ ธุรกิจเครือข่าย เพื่อหารายได้อีกทาง
สำหรับท่านที่ทำ ธุรกิจเครือข่าย อยู่ตอนนี้ หรือสนใจที่จะทำ เห็นหัวข้อบทความแล้วอาจคิดว่าผมเพี้ยนหรือเปล่า ในเมื่อบอกว่าผมเองเป็น นักธุรกิจเครือข่าย แล้วทำไมถึงเขียนบทความในหัวข้อ "อย่าทำ ธุรกิจเครือข่าย&ธุรกิจออนไลน์" ต้องขอยืนยันว่า ผมไม่เพี้ยนครับ มาอ่านบทความกันก่อนครับ ว่า ให้สาระอะไรกับท่านบ้าง
ธุรกิจเครือข่าย คือ ธุรกิจที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมงานในฐานะ นักธุรกิจเครือข่าย เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริโภค และสร้างรายได้อย่างมั่นคง สามารถเกษียณได้ เป็นคำนิยามที่ นักธุรกิจเครือข่าย ส่วนใหญ่มักจะใช้อธิบายความหมายของ ธุรกิจเครือข่าย อยู่เสมอ ถ้าจะพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ให้คนที่เข้าร่วมทำธุรกิจ ไปหาคนมาสมัครทำธุรกิจเหมือนเขานั่นเอง
แล้วทีนี้หลายท่านอาจสงสัยว่า ธุรกิจเครือข่าย สร้างรายได้ให้จริงไหม ผมขอตอบว่าจริงครับ แต่จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในองค์กรของคุณ คือ คุณสามารถแนะนำ/หาคนมาทำธุรกิจได้มากน้อยแค่ ไหน และคนที่คุณแนะนำ/หามา ทำต่อได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงรุ่นต่อ ๆ ไปด้วย Concept ก็มีประมาณนี้ ถ้าองค์กรของคุณมีสมาชิกจำนวนมากและเหล่าสมาชิกทั้งหลายยังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง คุณก็จะมีรายได้อย่างมหาศาล (จริง ๆ นะ ไม่ได้โม้....)
ระยะหลังเริ่มมีการทำการตลาดบนอินเตอร์เน็ตเลยเรียกกันติดปากว่า ธุรกิจออนไลน์ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ความหมายของ ธุรกิจออนไลน์ ไม่ใช่แค่หมายความถึง ธุรกิจเครือข่าย เพียงอย่างเดียว ไว้โอกาสหน้าผมจะมาอธิบายให้ฟังว่าที่จริงแล้ว ธุรกิจออนไลน์ คืออะไร ตอนนี้มาดูกันต่อว่าทำไมผมถึงบอกว่า "อย่าทำ ธุรกิจเครือข่าย&ธุรกิจออนไลน์"
จากการคลุกคลีอยู่ในวงการเป็นเวลาแรมปี ผมพบว่า ผู้คนส่วนมากกว่า 95% ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งที่ต้องอำลาวงการไป หรือแม้กระทั่งย้ายไปทำ ธุรกิจเครือข่าย บริษัทใหม่ค่ายใหม่ (ย้ายแล้วย้ายเล่า) โดยเหตุผลนานับประการ เช่น ถูก Upline (ผู้ที่แนะนำ) ทอดทิ้ง ไม่มีคนสอนงาน งานลักษณะนี้ไม่เหมาะกับตัวเอง สินค้าไม่ดี สินค้าแพง ต้องใช้เงินลงทุนสูงในการเข้าร่วมธุรกิจทำให้หาคนใหม่ยาก และอื่น ๆ อีกเพียบ เขาเหล่านั้นจึงเกิดอาการ "ถอย....ดีกว่า ไม่อาววววว....ดีกว่า" หรือไม่ก็ "ออก.......อย่างนี้ต้องลาออก" ผมเองก็เกือบไปเหมือนกัน ผมเลยมานั่งคิดว่า (ใช้คำว่าวิเคราะห์ หรูไปหรือเปล่า) อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผู้คนเหล่านี้ไม่ประสบความสำเร็จ (จริง ๆ แล้วก็ตัวผมเองนี่แหละ) ผมพบว่า มีอยู่แค่ 2 ประการเท่านั้นเอง คือ ขาดแคลนผู้มุ่งหวัง และ ไม่มีวิธีการหาผู้มุ่งหวัง เมื่อไม่มีผู้มุ่งหวังรายใหม่ที่เข้ามาร่วมธุรกิจก็เลยไม่มีรายได้กลับมา เป็นผลให้ทุนร่อยหรอ ไม่สามารถยืนระยะอยู่ได้ แล้วเค้าทำยังไงกันเล่าถึงล้มเหลว ไปดูกันต่อ
สาเหตุ ของความล้มเหลว
ก็เนื่องมาจากวิธีการทำงาน ธุรกิจเครือข่าย เกิดขึ้นบนโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้มาได้ 60 กว่าปีแล้ว (ผมว่าแก่กว่าพวกเราทุกคนท่านอ่านบทความอยู่รวมทั้งผมด้วย) เนื่องจากสมัยนั้นการสื่อสารยังไม่ทันสมัย การคมนาคมก็ไม่สะดวก วิธีการทำงานจึงทำอยู่ในวงแคบ ๆ บอกต่อกันในหมู่คนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหาย แต่อะไรจะไปได้เร็วและไกลได้เท่าลมปากของคน ธุรกิจเครือข่าย เลยประสบความสำเร็จและยั่งยืนมาอยู่ถึงทุกวันนี้ เป็นผลให้วิธีการนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว (นักธุรกิจเครือข่ายระดับสูงชอบพูดจังคำนี้) วิธีการนี้ นักธุรกิจเครือข่าย จะเรียกกันว่า Offline รายละเอียดของวิธีการทำงานแบบ Offline ที่ทำกันเหมือนกันทุกบริษัทในปัจจุบันมีดังนี้
ก็เนื่องมาจากวิธีการทำงาน ธุรกิจเครือข่าย เกิดขึ้นบนโลกเบี้ยว ๆ ใบนี้มาได้ 60 กว่าปีแล้ว (ผมว่าแก่กว่าพวกเราทุกคนท่านอ่านบทความอยู่รวมทั้งผมด้วย) เนื่องจากสมัยนั้นการสื่อสารยังไม่ทันสมัย การคมนาคมก็ไม่สะดวก วิธีการทำงานจึงทำอยู่ในวงแคบ ๆ บอกต่อกันในหมู่คนรู้จัก ญาติสนิทมิตรสหาย แต่อะไรจะไปได้เร็วและไกลได้เท่าลมปากของคน ธุรกิจเครือข่าย เลยประสบความสำเร็จและยั่งยืนมาอยู่ถึงทุกวันนี้ เป็นผลให้วิธีการนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว (นักธุรกิจเครือข่ายระดับสูงชอบพูดจังคำนี้) วิธีการนี้ นักธุรกิจเครือข่าย จะเรียกกันว่า Offline รายละเอียดของวิธีการทำงานแบบ Offline ที่ทำกันเหมือนกันทุกบริษัทในปัจจุบันมีดังนี้
- ลิสต์รายชื่อผู้มุ่งหวัง (ก็คนที่รู้จักนั่นแหละ)
- โทรนัดหมาย
- เข้าพบเพื่อแนะนำบริษัท ผลิตภัณฑ์ โอกาสทางธุรกิจ (เรียกให้หรูว่า STP ย่อมาจาก Show the Plan, Share the Product) หรืออาจใช้เอกสารประกอบจำพวก โบชัวร์ , CD
- เชิญเข้าร่วมงานต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น เพื่อกระตุ้นต่อมอยากในใจคน (Motivate)
- ปิดการสมัคร
- เข้าอบรมหลักสูตรต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตนเอง
- แล้วก็สอนให้ผู้สมัครใหม่ ทำตามขั้นตอนเหมือนเดิม
ไม่ใช่วิธีแบบเดิม ๆ จะไม่ได้ผลทั้งหมด มีคนที่ประสบความสำเร็จจากวิธีแบบเดิม ๆ ก็มี(น้อย) ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีความคิดริเริ่ม(อันนี้ชมจากใจจริง) เห็นว่านี่มันยุคอะไรแล้วพ่อคู้ณณณณณ.............นี่มันยุคดิจิตอลแล้ว ต้องไปทำงานกันบนอินเตอร์เน็ต จึงเกิดการทำงานที่เรียกว่า Online มีเว็บไซด์เป็นของตัวเอง แนะนำธุรกิจกันผ่านระบบ Conference แล้วใครหละจะเข้ามาดูเว็บเรา ใครหละจะมาประชุมฟังการบรรยาย งั้นก็ต้องลงโฆษณาในอินเตอร์เน็ตและเกิดวิธีการทำ Spam mail คือ การส่ง e-mail ไปยังคนที่เราไม่รู้จัก ไม่ต้องสนใจว่าผู้รับต้องการรับข่าวสารที่ส่งไปไหม มีความสนใจในธุรกิจของผู้ส่งไหม เพื่อผลอย่างเดียวคือสร้างโอกาสให้ผู้กระทำ แล้วก็ถ่ายทอดวิธีกันต่อไป การทำงานทั้ง Offline – Online มีค่าใช้จ่าย ซึ่งแน่นอนที่สุด คุณจ่ายเอง ไม่สามารถไปเบิกจากเสาไฟฟ้าได้
จากการทำงานทั้ง Offline - Online ผมพบว่ายังมีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก ไม่สนใจก็เยอะ แล้วอะไรถึงทำให้ยังมีผู้คนสนใจ ก็เพราะพื้นฐานในจิตใจของคนที่ว่า อยากสบาย อยากรวย อยากมีชีวิตยืนยาว อยากมีสุขภาพแข็งแรง ไม่อยากทำงาน มีเวลาว่างมาก ๆ ส่วนที่ไม่สนใจก็เพราะ กลัวถูกหลอก กลัวทำไม่ได้ ยังเข็ดอยู่ ไม่เชื่อว่าทำได้จริง ได้รับคำเตือนว่า "อย่าทำธุรกิจเครือข่าย" จากผู้คนรอบข้างและผู้คนที่ล้มเหลวมาก่อน (แปลกแฮะ เชื่อคนแพ้ ไม่เชื่อคนชนะ)
แล้วทำไมผมยังทำ ธุรกิจเครือข่าย ก็เพราะยังมีผู้คนที่สนใจอย่างที่ผมบอกไปแล้ว เมื่อยังมีคนสนใจทำไมผมจะต้องเลิกหละ ในทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อมี Demand ก็ต้องมี Supply แต่ วิธีการที่กล่าวมาทั้ง Offline - Online ผมทำมาหมดแล้ว สำเร็จก็ไม่เยอะ เจ็บมาก็แยะ แต่โดยรวมแล้วผลตอบแทนที่ได้รับกลับมายังไม่คุ้มกับเงินลงทุนและเวลาทีเสียไป เป็นเพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะผมสวมบทผู้ไล่ล่า ไม่มีความเชี่ยวชาญ ก่อนเข้าร่วม ธุรกิจเครือข่าย ฉลาดยังไงก็ยังคงฉลาดเท่าเดิม (หรือว่าโง่ยังไงก็โง่ยังงั้น) ซึ่งก็เหมือนกับผู้คนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว
ทั้งหมดคือสาเหตุว่าที่ผมบอกว่า "อย่าทำ ธุรกิจเครือข่าย&ธุรกิจออนไลน์" ถ้าคุณ "ไม่มีวิธีการ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และไม่สามารถเป็นผู้ให้ได้"
โอกาสหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังว่า "ทำไม คุณถึงต้องทำธุรกิจเครือข่าย" และ "ทำอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จใน ธุรกิจเครือข่าย" ติดตามได้ในบทความต่อ ๆ ไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น